เครื่องดูดควัน | ไอเท็มสำคัญสำหรับครัวสะอาด ปลอดกลิ่น

ในยุคที่บ้านและคอนโดมีพื้นที่จำกัด และการทำอาหารเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน เครื่องดูดควัน (Range Hood) จึงกลายเป็นอุปกรณ์ที่ขาดไม่ได้สำหรับครัวทุกประเภท เพราะนอกจากช่วยดูดกลิ่นควัน ไอน้ำมัน และมลพิษจากการประกอบอาหารแล้ว ยังช่วยป้องกันคราบไขมันไม่ให้เกาะฝ้า เพดาน และเฟอร์นิเจอร์ในห้องครัวได้อีกด้วย

การใช้งานของเครื่องดูดควัน

เครื่องดูดควันทำหน้าที่ ดูดอากาศเสียจากการทำอาหาร เช่น กลิ่นควัน, ไอน้ำมัน, ไอร้อน และไอน้ำ ออกไปจากห้องครัว เพื่อให้อากาศภายในบ้านสะอาด สดชื่น ป้องกันการเกิดเชื้อรา กลิ่นอับ หรือความเสียหายกับเฟอร์นิเจอร์

ข้อดีในการใช้งาน:

• ลดกลิ่นค้างในบ้านหลังทำอาหาร

• ป้องกันควันจากการทอด ผัด ที่ฟุ้งกระจาย

• ป้องกันคราบน้ำมันเกาะผนังและเพดาน

• เสริมความสวยงามให้กับห้องครัว

เครื่องดูดควันเหมาะกับใคร?

• ผู้ที่ทำอาหารบ่อย ๆ: เช่น ครอบครัวที่ทำกับข้าวเป็นประจำ หรือสายทำอาหารที่ชอบผัด ทอด จัดเต็มเรื่องกลิ่นและควัน

• ผู้อยู่อาศัยในคอนโดหรือบ้านขนาดเล็ก: ที่พื้นที่มีจำกัดและอากาศไม่ถ่ายเทสะดวก ต้องการตัวช่วยระบายอากาศ

• ผู้รักความสะอาดและสุขภาพ: เพราะการมีเครื่องดูดควันช่วยลดสารพิษในอากาศ และลดการสะสมของเชื้อราและแบคทีเรียในครัว

• ผู้ที่เน้นดีไซน์ห้องครัว: เครื่องดูดควันรุ่นใหม่ ๆ มาพร้อมดีไซน์ทันสมัย ช่วยเสริมบรรยากาศห้องครัวให้สวยงามหรูหราขึ้น

เหมาะกับพื้นที่แบบไหน?

• ห้องครัวในคอนโด/อพาร์ตเมนต์: ที่มีพื้นที่จำกัดและการระบายอากาศไม่ดี จำเป็นต้องติดตั้งเครื่องดูดควัน

• ห้องครัวในบ้านเดี่ยวหรือทาวน์โฮม: เพื่อป้องกันกลิ่นอาหารไม่ให้กระจายไปทั่วตัวบ้าน

• ห้องครัวเปิด (Open Kitchen): ช่วยควบคุมกลิ่นไม่ให้รบกวนพื้นที่อื่น ๆ ในบ้าน เช่น โซนรับแขกหรือห้องนั่งเล่น

• ครัวไทยแยก: แม้ครัวไทยจะอยู่ภายนอกบ้าน แต่การมีเครื่องดูดควันช่วยให้ครัวสะอาด และลดปัญหากลิ่นควันฟุ้งกระจาย

เครื่องดูดควันมีกี่ประเภท?

เครื่องดูดควันมีหลายประเภทให้เลือกตามลักษณะการใช้งานและการติดตั้ง ได้แก่:

1. เครื่องดูดควันแบบติดผนัง (Wall Mount Hood)

   • นิยมใช้กับห้องครัวที่มีพื้นที่กว้างและมีเตาติดริมผนัง

   • ดูดอากาศออกนอกอาคารโดยตรง

2. เครื่องดูดควันแบบติดใต้ตู้ (Under Cabinet Hood)

   • ติดตั้งใต้ตู้แขวน เหมาะกับครัวที่มีพื้นที่จำกัด

   • เป็นรุ่นที่ใช้งานง่ายและคุ้มค่า

3. เครื่องดูดควันแบบกระโจมกลางห้อง (Island Hood)

   • เหมาะสำหรับครัวที่มีเตาทำอาหารอยู่กลางห้อง

   • ดีไซน์สวยงาม เป็นทั้งเครื่องดูดควันและของตกแต่งห้องครัว

4. เครื่องดูดควันระบบหมุนเวียน (Ductless / Recirculating Hood)

   • ไม่มีท่อระบายอากาศ ใช้การกรองอากาศผ่านแผ่นกรองแล้วปล่อยกลับเข้าห้อง

   • เหมาะสำหรับคอนโดหรือที่ที่ไม่สามารถเจาะผนังทำท่อได้

5. เครื่องดูดควันแบบฝังเพดาน (Ceiling Hood)

   • ติดตั้งร่วมกับฝ้าเพดาน เหมาะกับห้องครัวสไตล์โมเดิร์นหรือห้องครัวขนาดใหญ่

   • เน้นความสวยงาม และประหยัดพื้นที่

เครื่องดูดควัน คืออุปกรณ์ที่ช่วยให้การทำอาหารเป็นเรื่องสะอาด สุขภาพดี และน่าอยู่ยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่ทำอาหารบ่อย ต้องการดูแลสุขภาพ และรักการจัดการบ้านอย่างเป็นระเบียบ มีหลายรูปแบบให้เลือกตามสไตล์การใช้งาน พื้นที่ห้องครัว และดีไซน์ที่ต้องการ
การเลือกเครื่องดูดควันที่เหมาะสม จะช่วยให้ครัวของคุณน่าใช้งานขึ้นอีกขั้นอย่างแท้จริง!